เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [54. กัจจายนวรรค] 5. กุมารกัสสปเถราปทาน
[157] ผู้มากด้วยความปรีดาปราโมทย์
มีโลมชาติชูชันและมีใจฟูขึ้น มีนัยน์ตากลมโต
นำความร่าเริงมา มีความอาลัยในศาสนาของเรา
[158] ผู้มีใจดี มีผ้าผืนเดียวหมอบอยู่แทบเท้าของเรา
เขาปรารถนาตำแหน่งคือการกล่าวธรรมได้อย่างวิจิตรนั้น
[159] ในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้ไป
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
[160] ผู้นี้จักมีนามว่ากุมารกัสสปะ
เป็นธรรมทายาท เป็นโอรสที่ธรรมเนรมิต
จักเป็นสาวกของพระศาสดาพระองค์นั้น
[161] เพราะอานุภาพแห่งดอกไม้และผ้า
อันวิจิตรและรัตนะทั้งหลาย
เขาจักถึงความเป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย
ผู้กล่าวธรรมได้อย่างวิจิตร’
[162] ด้วยกรรมที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้วนั้น
และด้วยเจตนาที่ตั้งไว้มั่น
ข้าพเจ้าละกายมนุษย์แล้ว
จึงได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
[163] ข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่
เหมือนตัวละครเต้นรำหมุนเวียนอยู่กลางเวที
ข้าพเจ้าเป็นลูกของเนื้อชื่อสาขะ
ได้ถือปฏิสนธิในครรภ์ของแม่เนื้อ
[164] ครั้งนั้น เมื่อข้าพเจ้ายังอยู่ในครรภ์
ถึงวาระที่จะต้องถูกฆ่า
มารดาของข้าพเจ้าถูกเนื้อชื่อสาขะทอดทิ้ง
จึงยึดเนื้อชื่อนิโครธเป็นที่พึ่ง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :259 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [54. กัจจายนวรรค] 5. กุมารกัสสปเถราปทาน
[165] มารดาของข้าพเจ้าได้พญาเนื้อชื่อนิโครธนั้น
สละชีวิตของตนช่วยให้พ้นจากความตายแล้ว
ตักเตือนข้าพเจ้าผู้เป็นลูกของตนในครั้งนั้นอย่างนี้ว่า
[166] ‘ควรคบแต่เนื้อชื่อนิโครธเท่านั้น
ไม่ควรเข้าไปคบหาเนื้อชื่อสาขะ
การตายในสำนักของเนื้อชื่อนิโครธยังประเสริฐกว่า
การมีชีวิตอยู่ในสำนักของเนื้อชื่อสาขะ จะประเสริฐอย่างไร1
[167] ข้าพเจ้า มารดาของข้าพเจ้าและพวกเนื้อนอกนี้
ได้เนื้อชื่อนิโครธผู้เป็นนายฝูงนั้นพร่ำสอน
อาศัยโอวาทของเนื้อชื่อนิโครธนั้น
จึงได้ไปยังที่อยู่อาศัยคือสวรรค์ชั้นดุสิตที่รื่นรมย์
ประหนึ่งว่าได้ไปยังเรือนของตนที่ทิ้งจากไป
[168] เมื่อศาสนาของพระกัสสปธีรเจ้า
กำลังถึงความสิ้นไป ข้าพเจ้าได้ขึ้นไปยังภูเขา
บำเพ็ญเพียรตามคำสอนของพระชินเจ้า
[169] ก็บัดนี้ เกิดในตระกูลเศรษฐีในกรุงราชคฤห์
มารดาของข้าพเจ้ามีครรภ์ ออกบวชเป็นบรรพชิต
[170] ภิกษุณีทั้งหลายรู้ว่ามารดาของข้าพเจ้ามีครรภ์
จึงนำไปหาพระเทวทัต พระเทวทัตนั้นกล่าวว่า
‘จงนาสนะภิกษุณีชั่วรูปนี้เสีย’
[171] แม้ในบัดนี้ มารดาผู้ให้กำเนิดของข้าพเจ้า
อันพระชินเจ้าผู้เป็นจอมมุนี ทรงอนุเคราะห์ไว้
จึงได้มีความสุขอยู่ในสำนักของภิกษุณี

เชิงอรรถ :
1 ขุ.ชา.(แปล) 27/12/6

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :260 }